วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2562



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 6


วันที่ 12 กันยายน 2562


ความรู้ที่ได้รับบทที่ 4 โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ


คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


 Book start  โครงการหนังสือเล่มแรก

 Picture book  หนังสือภาพ

 Mother and Child Clinic  คลินิกครอบครัวแม่และเด็ก

 Almoner  นักสังคมสงเคราะห์

 Early Childhood Center  ศูนย์เด็กปฐมวัย

 Baby Health Center  ศูนย์สุขภาพเด็ก

 Correct behavior  แก้ไขพฤติกรรม

 Initial health checkup  การตรวจสุขภาพเบื้องต้น

 Parents as Teachers Program  โครงการพ่อแม่ในฐานะครู

 Participation of parents  การมีส่วนร่วมของพ่อแม่


      ปัจจุบันสถานศึกษาทุกระดับทั่งโลก ต่างให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการจัดการศึกษา การให้ความรู้กับผู้ปกครองจึงเป็นภารกิจที่สถานได้ดำเนินงานในรูปแบบที่แตกต่างไปในแต่ละประเทศ โดยที่แต่ละประเทศได้ดำเนินยุทธศาสตร์การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยยึดหลักความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน ชุมชนและสังคมจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน

โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง
ในประเทศไทย

โครงการ   แม่สอนลูก

- ดำเนินการโดยกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิกา

- จัดสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาส โดยให้มารดาเป็นผู้สอนเองที่บ้าน

- ใช้วิธีการแนะนำให้รู้จักใช้ทักษะรู้จักคิดและเรียนรู้มโนทัศน์ด้าต่างๆ

ใช้รูปแบบการทดลองสอนแม่เพื่อสอนลูกที่บ้านโดยอาศัยรูปแบบ

โครงการการเยี่ยมบ้านของประเทศอิสราเอล

- มารดามีความพอใจในกิจกรรมมีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ง

เสริมพัฒนาการด้านต่างๆเพิ่มขึ้น

- เนื้อหากิจกรรมในโปรแกรมนี้เป็นกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก

- ดำเนินการโดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.อุบลราชธานี

เป็นโครงการทดลองหารูปแบบในการให้ความรู้แก่กลุ่มสตรีแม่บ้าน

ในชุมชนได้นำแนวทางของโปรงแกรม Hippy Program ของ

ประเทศ อิสราเอล

- เน้นให้ผู้ปกครองมีความพร้อมก่อนส่งลูกเข้าเรียน แม่จะส่งเสริมเด็

ด้านต่างๆ เช่น ภาษา การพัฒนากล้ามเนื้อ และสติปัญญา

- มีการบันทึกผลและการปฏิบัติรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแม่และ

ลูก


 การพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองใน
การอบรมเลี้ยงดูเด็กต่ำกว่า 3 ปี ผ่านโรงพยาบาลชุมชนและ
สถานีอนามัย

       เป็นโครงการภายใต้งานวิจัยของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เกิดจากความต้องการให้ครอบครัว เป็นหลักของการพัฒนาเด็กในช่วงอายุต่ำกว่า 3ปี ด้วยการให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นผู้เลี้ยงดูที่มีคุณภาพ โดยใช้รูปแบบการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ประกอบด้วย 4 รูปแบบ คือ

1 วิธีกระบวนการเรียนรู้โดยการมีส่วนร่วม

2 วิธีการสนทนากลุ่ม

3 วิธีอภิปรายกลุ่ม

4 วิธีการบรรยาย  


โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย


      ดำเนินงานโดยสำนักสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต เป็นโครงการที่มุ่งเร่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนไทย โดยผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมที่สำคัญ ด้วยการจัดทำชุดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง ประกอบด้วย

- แบบสังเกตความคิดสร้างสรรค์ในเด็กสำหรับพ่อแม่
- คู่มือความรู้และการจัดกิจกรรมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
- หลักสูตรการเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์
- ซีดีการเรียนรู้ด้วยตนเองเรื่อง “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
- จัดอบรมพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่อง“การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”



โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งของครอบครัว “บ้านล้อมรัก”


ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบ
ปรามยาเสพติดภายใต้คำขวัญ“พลังครอบครัวไทยชนะภัยยาเสพ
ติด” เพื่อสร้างความเข้าใจบทบาทของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการดูแล
เอาใจใส่บุตรหลาน เพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจากยาเสพติด โดย
มีวิธีการประชาสัมพันธ์โครงการผ่าน ช่องทางคือ
- ผ่านโทรทัศน์ในรูปแบบสารคดีและแทรกในรายการโทรทัศน์
- ผ่านสื่อวิทยุในรูปแบบสารคดีสั้น สปอตประชาสัมพันธ์ กิจกรรม และสัมภาษณ์
- สื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ จดหมายข่าว โปสเตอร์ สติกเกอร์ เสื้อยืด เป็นต้น
- กิจกรรมส่งเสริมความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกใน
ครอบครัว เช่น เกม กีฬา เป็นต้น

       โครงการหนังสือเล่มแรก (Book start Thailand)

       โครงการหนังสือเล่มแรก เริ่มต้นขึ้นในปี 2546 โดยการริเริ่มของ
มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ซึ่งในปีนั้นรัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการ
ประกาศให้เป็นปีแห่งการอ่าน  ส่วนภาคเอกชนโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์
และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการ “รวม
พลัง รักการอ่าน” ขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน  โดยมีเป้าหมายที่จะให้พ่อแม่
ลูกมีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือ สร้างพื้นฐานการอ่านและสาน
สัมพันธ์ในครอบครัว ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยนิสัยรักการอ่าน
และประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้ง
องค์กรท้องถิ่นในการรณรงค์โครงการ โดยการจัดทำถุงบุ๊คสตาร์ท 
(book start) ติดตามประเมินผลครอบครัวในโครงการ

       โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว

เป็นการดำเนินงานร่วมกันของกรมการพัฒนาชุมชน กรมการศึกษา
นอกโรงเรียน กรมอนามัย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ
อีกหลายหน่วยงาน วัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาและเพิ่มพูนความรู้ให้พ่อ
แม่ สมาชิกในครอบครัว เยาวชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรม
เลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโต มีพัฒนาการตามวัยต่อเนื่องสอดคล้องกับ
วิถีชีวิตครอบครัวและสังคมของเด็ก โดยมีกิจกรรม

โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ


 โครงการ การให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศ
อิสราเอล


       ประเทศอิสราเอลถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา
ค่อนข้างสูง เพราะถือว่าการศึกษาคือการพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพ 
ดังนั้น จึงมีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 3-4ปี โดยรัฐบาลเป็นผู้
สนับสนุนงบประมาณ งานการศึกษาเด็กโดยพ่อแม่ผู้ปกครองถือเป็น
ส่วนหนึ่งของระบบการจัดการศึกษาของอิสราเอลตั้งแต่ระดับอนุบาล 
การทำงานระหว่างบ้านกับโรงเรียนและชุมชนจึงพบได้ในทุกโรงเรียน
ซึ่งถือเป็นงานปกติที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ 

       โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยที่เรียกว่า ALEH  (Early Childhood Enrichment Center)


       ศูนย์ ALEH จะมีกิจกรรมช่วยพ่อแม่ผู้ปกครอง ดังนี้
- สอนแม่ที่อายุยังน้อยให้รู้จักใช่สื่อ-อุปกรณ์ (ของเล่น) เกมการเล่น
เพื่อพัฒนาเด็ก และถ้าเด็กมีปัญหาทางด้านพัฒนาการด้านร่างกาย
และสติปัญญาก็จะเสนอแนะให้รู้จักกับนักสังคมสงเคราะห์เพื่อรับฟัง
คำแนะนำ
- จัดกิจกรรมสอนให้แม่ทำของเล่นให้ลูกหรือคิดสร้างเกมการเล่นกับ
ลูก
- ประสานงานกับคลินิกครอบครัวแม่และเด็ก จัดกิจกรรมเสนอแนะให้
แม่ที่ไม่เคยมีเวลาว่างไปร่วมในศูนย์ ALEH เพื่อจัดกิจกรรมในข้อขั้น
ต้น


 โครงการเสนอแนะให้แม่สอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ถูกวิธี



       อาจเรียกโครงการนี้ว่าเป็นการจัดการศึกษานอกระบบแก่พ่อแม่ก็

ว่าได้ โดยโครงการนี้ชื่อ HATAF โปรแกรม เป็นโครงการที่ร่วมมือกัน

ทำระหว่างมหาวิทยาลัยเยรูซาเล็มกับกระทรวงศึกษาธิการ เป็น

โครงการที่จัดรูปแบบการสอนพ่อแม่ที่มีลูกอายุ 1-3ปี ซึ่งกิจกรรมที่

สอนพ่อแม่ผู้ปกครองก็คือ ให้พ่อแม่ได้พัฒนาทักษะการพูด-คุยกับ

ลูกได้เรียนรู้พัฒนาการทั้งทางด้านสติปัญญา อารมณ์และสังคม  สอน

ให้พ่อแม่จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมให้ลูกอย่างง่ายๆ รู้จักใช้วัสดุใน

ครัวเรือนและท้องถิ่นเป็นสื่อ –อุปกรณ์ และสอนให้รู้จักจัดกิจกรรมการ

เล่นกับลูกที่มีอายุ 1-3 ปี



โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก




จัดขึ้นสำหรับเด็ก 4-6 ปี พร้อมด้วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง วัตถุประสงค์

เพื่อ ส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครองใช้เวลาว่างร่วมกับลูกในกาสนับสนุน

ความคิดสร้างสรรค์ และสนุกกับกิจกรรม-ผลงานที่ลูกสร้างขึ้น โดยมี

วิทยากรเป็นครูจากเนอสเซอรี่ หรือ รร.อนุบาลหรือผู้เชี่ยวชาญทาง

ศิลปะ-ดนตรี เกมการศึกษา นาฏศิลป์ ร้องรำทำเพลง ฯลฯ โดยก่อน

เริ่มกิจกรรมจะมีกรพูดคุยกับพ่อแม่ถึงกิจกรรมที่จะเล่นกับเด็ก และ
เมื่อจบกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยสรุปและประเมินผลที่ได้ในวัน
นั้นๆ ระหว่างพ่อแม่ ผู้ปกครองและผู้จัด

       โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา


       เมื่อปี ค.ศ. 1930 สหรัฐอเมริกาได้ประสบปัญหาหลายอย่าง โดย
เฉพาะด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อครอบครัว จึงได้มีการประชุม
เรื่อง สุขภาพเด็กและแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยได้เสนอให้มีการ
จัดทำหลักสูตรการให้ความรู้ผู้ปกครองไว้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการ
ศึกษาระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาของทุกรัฐ
- เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย รวมทั้งลักษณะของชีวิตครอบครัว
- ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก
- ได้อภิปรายเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและประเพณีที่มีต่อชีวิต
ครอบครัว
- เพื่อให้เข้าใจลักษณะและจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา

        โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่


       มีการจัดตั้ง ศูนย์ข้อมูลพ่อแม่ ขึ้นในทุกรัฐ โดยการดำเนินงานนั้น
ให้ผ่านไปยังองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ (NGO) โดยให้การ
อบรมความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครอง ภายใต้คำนิยาม “การ
ศึกษาของพ่อแม่ (Parent Education) “โครงการพ่อแม่ในฐานะครู” 
(Parents as Teachers Program) และ “โครงการสอนเด็กเล็กในบ้าน” 
(Home Instruction for Preschool Youngsters Program) โดยมี
วัตถุประสงค์ ดังนี้
- ให้เข้าใจเรื่องความต้องการทางการศึกษาของเด็ก
- ให้สนับสนุนในการช่วยเหลือในการเรียนของเด็กจนประสบความ
สำเร็จ
- สามารถที่จะติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างครู ผู้บริหาร
และนักเรียน
- ให้มีส่วนร่วมในการออกแบบรับความช่วยเหลือสำหรับนักเรียนที่ไม่
ได้มาโรงเรียน เช่น การให้บริการเอกสารในเรื่องต่างๆ 

       โครงการ เฮดสตาร์ท (Head Start)



       เป็นโครงการระดับชาติที่ให้บริการด้านพัฒนาการแก่เด็กอายุ 3-
5ปี ที่พ่อแม่มีรายได้น้อย และบริการด้านสังคมแก่ครอบครัวของเด็ก
เหล่านั้น การบริการเฉพาะสำหรับเด็กเน้นเรื่องการศึกษา พัฒนาการ
ด้านอารมณ์ สังคม สุขภาพกาย จิตใจและโภชนาการ พื้นฐานสำคัญ
ของโครงการนี้คือ การมีส่วนร่วมของพ่อแม่และชุมชนโครงการเฮด
สตาร์ท มีฐานะเสมือนห้องปฏิบัติการระดับชาติ เพื่อพัฒนาเด็ก
ปฐมวัย โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- สร้างครอบครัวให้เข้มแข็งในการอบรมเลี้ยงดูเด็กขั้นต้น
- เชื่อมโยงเด็กและครอบครัวต่อการบริการชุมชนที่มีความต้อการ
จำเป็น
- ประกันโครงการที่จัดการดีว่าพ่อแม่เด็กมีส่วนร่วมในการตกลงใจ

       โครงการ โฮมสตาร์ท (Home Start Program)


       เป็นการนำพ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาของเด็กเล็กซึ่งอยู่
ภายใต้โครงการใหญ่ คือ เฮดสตาร์ท เป้าหมายคือ เพื่อสร้างความ
สำนึกให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของตนที่มีต่อเด็ก และชี้ให้ผู้รับ
ผิดชอบในการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก เห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วม
ของมารดาที่มีผลต่อการเรียนของเด็กด้อยโอกาส โดยช่วยเหลือ
สนับสนุนให้ครอบครัวมีความสามารถดูแลเด็กอย่างถูกต้องและมี
สมรรถภาพ

       โครงการสมาร์ท สตาร์ท (Smart Start)



       ก่อตั้งโดยนายจิม ฮั้น ผู้ว่าการมลรัฐแคโรไลนาเหนือ ในปี พ.ศ. 

2536 ได้จัดให้มีคณะทำงานศึกษาสาระปัญหาเด็กเล็ก โดยเฉพาะใน

ด้านการอบรมเลี้ยงดูและการศึกษาของเด็กเล็ก  ปัจจุบันกระทรวง

ทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดำเนินโครงการ โครงการนี้สร้างสรรค์ขึ้นจาก

ความคิดริเริ่มด้านเด็กเล็กจากแรงผลักดันของท้องถิ่น ชุมชนรวมตัว

กันเข้าเรียกร้องความต้องการให้เด็กเล็ก โดยมีเป้าหมายที่เด็กอายุต่ำ

กว่า 6 ปี ให้มีสุขภาพและความพร้อมที่จะเรียนให้สำเร็จ



       โครงการ Brooklyn Early Childhood




       เป็นโครงการที่ฝึกให้ผู้ปกครองเป็นครูในการสอนลูก  ดำเนินการ
โดย Brooklyn  Public School ซึ่งได้รับความร่วมมือจากศูนย์การ
แพทย์ในโรงพยาบาลเด็ก ในการจัดการศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง โดย
การจัดให้มีการตรวจสุขภาพเด็กเบื้องต้นเพื่อให้สามารถรักษาดูแล
ความเจ็บป่วย ความพิการหรือข้อบกพร่องต่างๆ ในระยะต้นได้ 
นอกจากนี้ยังให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกวิธี และ
วิธีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ ขวบขึ้นไปด้วยการฝึกให้เด็กเล่น
รวมกลุ่ม

       โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศนิวซีแลนด์


         ประเทศนิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการ
ศึกษาปฐมวัย โดยการศึกษาในระดับนี้จะให้โอกาสผู้ปกครองใช้สิทธิ
ในฐานะหุ้นส่วนในการจัดการศึกษาปฐมวัย และมีส่วนร่วมในการ
ตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหลานครูอนุบาลที่มีความสามารถ
จะให้โอกาสผู้ปกครองและครอบครัวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
พัฒนาการเด็ก การเรียนการสอน และส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ปกครอง
อยู่ด้วยในช่วงที่มีการเรียน
  

       โครงการ เพลย์เซ็นเตอร์


       เป็นโครงการที่กล่าวได้ว่า พ่อแม่ไปมีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด นับ
ตั้งแต่การจัดตั้ง การบริหาร การดำเนินงาน โดยมีการควบคุม
มาตรฐานที่รัฐบาลรับรองและมาสมารถจัดบริการให้แก่เด็กเล็กได้
ประมาณหนึ่งในสามของเด็กปฐมวัยทั้งหมดของประเทศ ปรัชญาใน
การทำงานคือ
 “พ่อแม่คือครูคนแรก และเป็นครูที่ดีที่สุดของลูก”

       โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน




       เป็นโครงการที่โรงเรียนจัดนิทรรศการสำหรับผู้ปกครอง เพื่อ

อธิบายถึงปรัชญาที่เป็นรากฐานของการศึกษาปฐมวัย และนโยบาย

เรื่องประโยชน์ของการศึกษาที่มีต่อผู้ปกครอง มีการสำรวจความรู้ของ

ผู้ปกครองเกี่ยวกับการศึกษาปฐมวัยและจัดเตรียมแฟ้มข้อมูลข่าวสาร

และนิทรรศการต่างๆ เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมแก่ผู้ปกครองตลอดจนการ

จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการวางแผน จัดทำ

หลักสูตร การพัฒนาทักษะ การประเมินผลการเรียน และการประเมิน

ผลการจัดการศึกษากับผู้ปกครอง



  โครงการ “พ่อแม่คือครูคนแรก”  

(Parents as First Teachers)




       เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือแนะนำและให้ข้อมูลแก่พ่อแม่

ให้มีความรู้ความเข้าเข้าใจพัฒนาการของเด็กก่อนเกิดและตั้งแต่เกิด

ถึง 3ขวบ รัฐบาลส่งเสริมให้พ่อแม่ทุกคนเข้าร่วมโครงการได้ตาม

ความสมัครใจและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โครงการนี้จะคัดเลือก

พ่อแม่ที่ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจอย่างดีมาเป็นผู้

เชี่ยวชาญที่เรียกว่า “พ่อแม่นักการศึกษา” 

      พ่อแม่จะได้รับข้อมูลเช่น การสร้างประสบการณ์การศึกษาที่ตื่น

เต้นแก่ลูกโดยไม่ต้องใช้ของเล่นราคาแพง การส่งเสริมให้ลูกรักการ

อ่านหนังสือ การจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยและสนุก การแก้ไข

พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และการส่งเสริมให้ลูกพัฒนาอย่างเต็ม

ศักยภาพมากที่สุด 



       โครงการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองประเทศออสเตรเลีย




      มีรูปแบบในการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในลักษณะที่เรียกว่า 

(Early Childhood Center) หรือ ศูนย์สุขภาพเด็ก (Baby Health 

Center) เป็นศูนย์ที่ให้บริการคำแนะนำฟรีสำหรับพ่อแม่และทารก

จนถึง 5ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จะเป็นพยาบาลทั่วไป จะทำการนัด

หมายให้พ่อแม่พาลูกไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ดูพัฒนาการของลูก ไป
เยี่ยมบ้าน โดยเฉพาะทารกที่มีปัญหา เช่น ตัวเหลืองรวมทั้งไปสอน
การดูแลการอาบน้ำเด็กทารกจนกระทั่งแม่แข็งแรงดี  มีการจดบันทึก
ข้อมูลเด็กลงในสมุดสีฟ้า (blue book) ซึ่งเด็กทุกคนต้องมีสมุดเล่มนี้ 
สำคัญเหมือนบัตรประชาชน  นอกจากนี้ก็จะให้คำแนะนำในการดูแล
สุขภาพกายและใจ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรก 
   

       โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ (Bookstart UK)


       โครงการ บุ๊คสตาร์ท หรือเรียกว่า “หนังสือเล่มแรก” ก่อตั้งขึ้นเป็น
ครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2535 โดย นางเวนดี้ คูลลิ่ง 
ภายใต้ บุ๊คทรัสต์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่มีจุดมุ่งหมายในการนำ
หนังสือสู่คน นำคนสู่หนังสือนับเป็นโครงการแรกของโลกที่ว่าด้วย
หนังสือสำหรับเด็กทารก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กทารกใน
อังกฤษทุกคนได้รับโอกาสและสนับสนุนให้พัฒนาความรู้สึกรัก
หนังสือและการอ่านไปตลอดชีวิต ด้วยการจัดสรรให้เด็กทารกทุกคน
ได้รับ “ถุงบุ๊คสตาร์ท”
       ภายในถุงประกอบด้วย
- หนังสือที่ได้รับการคัดสรรแล้ว เล่ม
- หนังสือแนะนำพ่อแม่ด้วยภาพเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กและโยงไปถึง
การเลี้ยงดูด้วยหนังสือ
ของชำร่วยสำหรับเด็ก เช่น ผ้ารองจานฯลฯ
- แผนที่แนะนำห้องสมุดแถวละแวกบ้าน
- บัตรสมาชิกห้องสมุดสำหรับเด็ก
- รายชื่อหนังสือสำหรับเด็ก
- รายชื่อศูนย์สนับสนุนคุณแม่เลี้ยงลูก

       โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น (Bookstart Japan)


       เมื่อปี พ.ศ. 2543 ญี่ปุ่นประกาศให้เป็น “ปีแห่งการอ่านของเด็ก” 
และได้มีการนำโครงการบุ๊คสตาร์ทของประเทศอังกฤษเข้ามาเผย
แพร่ในญี่ปุ่น โดยมีศูนย์สนับสนุนบุ๊คสตาร์ทเป็นเจ้าของโครงการ ด้วย
หลักการและเหตุผลที่ว่า ภาษามีความสำคัญต่อการหล่อเลี้ยงจิตใจ
เด็ก เด็กเล็กต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่นและเสียงพูดคุยอย่างอ่อน
โยน  โครงการบุ๊คสตาร์ทสนับสนุนสัมผัสอันอบอุ่นโดยมี “หนังสือ
ภาพ” เป็นสื่อกลาง โดยทดลองที่เขตสุงินามิ ในกรุงโตเกียวเมื่อเดือน
เมษายน พ.ศ. 2544 ได้รับความร่วมมือจากศูนย์อนามัย ห้องสมุดและ
หน่วยงานสนับสนุนการเลี้ยงดูเด็กสามองค์กรร่วมกันแจกถุง  บุ๊ค
สตาร์ทแก่แม่ที่พาลูกมาตรวจสุขภาพในช่วงอายุ เดือน โดยมีเป้า
หมาย 200 ครอบครัว และก็ได้มีการแพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วใน
ประเทศญี่ปุ่น

สรุป

จากโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น จะเห็นได้ว่า

ทุกประเทศให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเด็กตั้งแต่เด็กปฐมวัย ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง 

เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นที่ดีของชีวิต พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมและมีคุณภาพ

ในการดูแลเด็ก เพื่อให้เด็กได้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ 


หลังจากนั้นอาจารย์ก็เปิดวิดีโอให้ชมค่ะ

โครงการหนังสือเล่มแรก

คำถามท้ายบท

      1. ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
     ตอบ ทุกประเทศให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเด็กตั้งแต่เด็กปฐมวัย ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นที่ดีของชีวิต พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมและมีคุณภาพในการดูแลเด็ก เพื่อให้เด็กได้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ 

      2. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย
     ตอบ แนวคิดคือ เราจะต้องทำให้ผู้ปกครองเห็นว่าผลสำเร็จแล้วมีแต่ผลดีทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวเด็กและผู้ปกครองด้วย

      3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก
       ปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการ
      จะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็กมา 5 เรื่อง พร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ 
     ตอบ 1.การให้เด็กช่วยหลือตนเอง ช่วยเหลือตนเองเบื้องต้น เช่น การเข้าห้องน้ำ 2.การพัฒนาสมองด้วยดนตรี การใช้เพลง ขับร้องเพลง เล่นดนตรีด้วยกัน 3.การพัฒนากล้ามเนื้อมือ ด้วยกิจกรรมศิลปะ การวาดภาพ ระบายสี การเขียนตัวอักษร 4.การประดิษฐ์สื่อด้วยมือเรา จากของเหลือใช้ เป็นการนำวัสดุเหลือใช้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5.การสื่อสารที่ถูกต้อง การใช้คำพูดที่สุภาพ การจับคู่ภาพ กับคำศัพท์

      4. การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่
        อย่างไร  จงอธิบาย
     ตอบ ส่งผล เพราะถ้าผู้ปกครองมีความรู้มากขึ้นส่งผลให้ทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเด็กดีขึ้นแน่นอนค่ะ

      5. นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไรจงอธิบาย
ต   อบ การโทรไปถาม หรือถ้าอยู่ใกล้ๆ เราก็สามารถเข้าไปเยี่ยมถามได้ค่ะ


ประเมินเพื่อน เพื่อนๆตั้งใจเรียน ตั้งใจทำกิจกรรม ให้ความร่วมมือกันทุกคน

ประเมินตนเอง มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์พูด ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆในห้อง


ประเมินผู้สอน : อาจารย์มาสอนตามเวลา แต่งกายสุภาพ สอนได้เข้าใจค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น