บันทึกการเรียนรูครั้งที่ 4
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง
1.One-Way Communication การสื่อสารทางเดียว
2.Two-Way Communication การสื่อสารสองทาง
3.Verbal Communication การสื่อสารเชิงวัจนะภาษา
4.Non-Verbal Communication การสื่อสารเชิงอวัจนะภาษา
5.Personal Communication การสื่อสารส่วนบุคคล
6.Intrapersonal Communication การสื่อสารระหว่างบุคคล
7.Mass Communication การสื่อสารมวลชน
8.Channel ช่องทางการสื่อสาร
9.Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร
10.Clearly ความชัดเจน
ความรูที่ได้รับ : การสื่อสารกับผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
ความหมายของการสื่อสาร
• การสื่อสาร (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา โดยคาดหวังให้เป็นไปตามที่ผู้ส่งต้องการ
• การติดต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ ความคิด ทัศนคติ ทักษะ และประสบการณ์ระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสารให้มีความเข้าใจ ที่ตรงกันเพื่อนำไปสู่การดำรงชีวิตที่มีความสุข
ความสำคัญของการสื่อสาร
1.ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
2.ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
3.ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น
4.ทำให้เกิดภาพแห่งความพึงพอใจ
5.ช่วยในการพัฒนาอัตมโนทัศน์เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีต่อตนเองก่อให้เกิดความพอใจในชีวิต
รูปแบบของการสื่อสาร
รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล(Aristotle’s
ModelofCommunication)
รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล(Lasswell’sModelofCommunication)
รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์(Shannon&Weaver’sModelofCommunication)
รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์(C.EOsgoodandWillburSchramm’s )
รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล(Berlo’sModelofCommunication)
องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง
*ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
• ผู้จัดกับผู้ชม
• ผู้พูดกับผู้ฟัง
• ผู้ถามกับผู้ตอบ
• คนแสดงกับคนดู
• นักเขียนกับนักอ่าน
• ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
• คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน
*สื่อ
ใช้วิธีพูด-เขียน หรือการนำเสนอในรูปแบบต่างเช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ โดยการสื่อสารนั้นสามารถใช้สื่อหลายๆอย่างได้พร้อมๆกัน เช่น การเรียน การสอน ต้องใช้ทั้งหนังสือ กระดาน ภาพ
*สารคือ
เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อเท็จจริง ข้อแนะนำ การล้อเลียน ความปรารถนาดี ความห่วงใย มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้ การสื่อสารจะเกิดขึ้นตามกาลเทศะ และสภาพแวดล้อมต่างๆในสังคม
*ประเภทของการสื่อสาร
ได้มีจำแนกประเภทของการสื่อสารไว้แตกต่างกันหลายลักษณะทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการจำแนก ในที่นี้จะแสดงการจำแนกประเภทของการสื่อสาร โดยอาศัยเกณฑ์ในการจำแนกที่สำคัญ 3 ประการ คือ1.จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร2.จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก3.จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
*การสื่อสารกับตนเอง
•การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
•การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
•เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด
•บางครั้งมีเสียงพึมพำดังออกมาบ้าง
•บางครั้งเกิดความขัดแย้งในใจและไม่อาจตัดสินใจได้
•อาจเป็นการปลอบใจตนเอง การเตือนตนเอง การวางแผน หรือแก้ปัญหาใดๆ
*การสื่อสารระหว่างบุคคล
•บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
•เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคลอาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
•อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น
•สารที่สื่ออาจเปิดเผยหากมีประโยชน์ต่อบุคคลอื่น
*การสื่อสารสาธารณะ
•มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
•มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
•เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา
•เช่น การบรรยาย การปาฐกถา การอมรม การสอนในชั้นเรียน
*การสื่อสารมวลชน
•ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
•ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูงรวดเร็วกว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
•ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ
•อาจสนองความต้องการและความจำเป็นของมวลชนมากหรือน้อยได้
*การสื่อสารในครอบครัว
•เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
•ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว
•คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดีงามเสมอ
•ต้องยอมรับและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
•คนต่างรุ่นต่างวัยในครอบครัวต้องพยายามทำความเข้าใจให้ตรงกัน
•ควรคำนึงถึงมารยาทที่ดีงามอยู่เสมอ
*การสื่อสารในโรงเรียน
•ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย
•เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการพื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต
•มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารในกลุ่มและการสื่อสารสาธารณะ
•อาจใช้เวลานานเพราะเรื่องราวมีปริมาณมาก•อาจมีโอกาสโต้แย้งถกเถียงควรยอมรับข้อเท็จจริงและไม่ใช้อารมณ์
•ข้อเท็จจริงและข้อสรุปบางเรื่องไม่ควรนำไปเผยแพร่
•ควรระมัดระวังคำพูดและกิริยามารยาท
•คุณธรรมด้านความซื่อสัตย์และการยอมรับอาวุโสเป็นเรื่องสำคัญ
*อุปสรรคที่สำคัญของการสื่อสาร
•ผู้ส่งข่าวสารขาดทักษะในการสื่อสารที่ดี เช่น ใช้ภาษาที่อยากแก่การเข้าใจหรือไม่เหมาะแก่ผู้รับ
•ข้อมูลข่าวสารมากเกินไป
•ได้ข่าวสารไม่ครบสมบูรณ์ ทำให้สื่อความหมายผิดๆ
•ข้อมูลที่ส่งไปผ่านหลายขั้นตอน
•เลือกใช้เครื่องมือในการส่งข่าวสารไม่เหมาะสม
•รีบเร่งด่วนสรุปข่าวสารเร็วเกินไปขาดการไตร่ตรอง
•ผู้รับข่าวสารไม่ทบทวนหรือสอบถามให้เข้าใจเมื่อสงสัย
•อารมณ์ของผู้รับ หรือ ผู้ส่งอยู่ในสภาพไม่ปกติ
•ผู้ส่งหรือผู้รับมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
*7C กับการสื่อสารที่ดี
Credibility ความน่าเชื่อถือ
Content เนื้อหาสาระ
Clearly ความชัดเจน
Context ความเหมาะสมกับโอกาส
Channel ช่องทางการสื่อสาร
Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน
Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร
*คุณธรรมที่สำคัญในการสื่อสาร
ความสัจจะและไม่ล่วงละเมิดสิทธิซึ่งกันและกัน ความรัก ความเคารพและความปรารถนาดีต่อกัน ความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูดหรือกระทำ เป็นกิริยาวาจาที่เรียบร้อยถูกต้องตามคตินิยม
*วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม
สรุป การสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพนับเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้งานการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ ผู้ที่เป็นครูจะต้องทำความเข้าใจเรื่องการสื่อสารให้กระจ่างชัดเจน เพื่อที่จะให้ทำการให้ความรู้ให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองได้ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นและมีความอบอุ่นว่าสถานศึกษาจะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นก็ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง บ้าน โรงเรียน ชุมชนและสังคมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเด็กร่วมกัน
คำถามท้ายบท
1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
ตอบ การสื่อสาร คือ กระบวนการส่งข่าวสารหรือข้อมูล จากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ความสำคัญของการสื่อสาร เป็นการทำให้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม เกิดความเข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งทำให้เกิดมิตรภาพที่อบอุ่นทั้งทางกายและใจ
2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
ตอบ -เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความเข้าใจตรงกันในเรื่องต่างๆอย่างสมานฉันท์
-เพื่อชักจูงใจให้ผู้ปกครองเกิดความร่วมมือในการปฏิบัติตนทีดี
-เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีและรักษามิตรภาพที่ดีระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู
3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
ตอบ รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล ได้แก่
ผู้พูด-------คำพูด-------ผู้ฟัง
เพราะเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมในสื่อสารระหว่างผู้ปกครองและคุณครู ในการพูดคุยปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับตัวเด็ก เช่น การปรึกษาการไม่รับประทานอาหารของเด็ก การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการเรียน
4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบ -เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาการเด็ก
-เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีสมานฉันท์
-มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
-เรียนรู้ได้ดีจาการฝึกปฏิบัติ
-เรียนรู้ได้ดีในบรรยายกาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด
-ควรได้รับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ทีละขั้น
ตอน
-เรียนรู้ได้ดีจากสื่อและอุปกรณ์ที่หลากหลาย
5.)ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
ตอบ -ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่จะเรียนรู้
-ความต้องการ เช่น ต้องการให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง มีการศึกษาที่ดี
-อารมณ์และการปรับตัว เช่น ดีใจ พอใจ โกรธ เสียใจ
-การจูงใจ เช่น ต้องการรู้เพื่อพัฒนาลูก ต้องการรู้เพื่อให้ลูกเป็นคนดี
-การเสริมแรง เช่น คำชมเชย รางวัลให้ลูกมีกำลังใจ
-ทัศนคติและความสนใจ เช่น จัดสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ทำให้ผู้ปกครองพอใจและสนุกกับการเรียนรู้
-ความถนัด ความสามารถในการทำกิจกรรมให้สำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจเรียน ตั้งใจทำกิจกรรม ให้ความร่วมมือกันทุกคน
ประเมินตนเอง : มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์พูด ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆในห้อง
ประเมินผู้สอน : อาจารย์มาสอนตามเวลา แต่งกายสุภาพ นำกิจกรรมมาให้เล่น สนุกมากค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น